
อาการปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหลัง หรือปวดหัวเรื้อรังจากการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ไม่ได้เป็นเพียงอาการเมื่อยล้าธรรมดา แต่คือสัญญาณของภาวะที่เรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพยอดฮิตของคนวัยทำงานยุคนี้ คำถามที่หลายคนสงสัยคือ "ออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม?" คำตอบคือ "หายได้" แต่ต้องเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงและได้รับการรักษาที่ตรงจุด บทความนี้จะเจาะลึกถึงสาเหตุ แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง และวิธีป้องกันไม่ให้อาการเหล่านี้กลับมากวนใจคุณอีก เพื่อให้คุณกลับมาทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป
ออฟฟิศซินโดรม คืออะไร?
ออฟฟิศซินโดรม คือ เป็นกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกที่เกิดจากการใช้ท่าทางซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน หรืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมในตอนที่นั่งทำงาน ซึ่งจะส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดความตึงเครียด กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง เส้นประสาทถูกกดทับ และอาจนำไปสู่อาการอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น หลังตึง ปวดสะบัก ปวดหัวเรื้อรัง ปวดหลังอย่างรุนแรง ปวดหลังส่วนล่าง หรือชาที่แขนและมือ
ออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม?
ถ้าถามว่าออฟฟิศซินโดรม รักษาหายไหม คำตอบอยู่นี่แล้ว
ออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม?
การแก้ออฟฟิศซินโดรมสามารถหายขาดได้ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างจริงจัง ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรักษาคือ
- ความรุนแรงของอาการ: หากเป็นอาการเริ่มต้นที่เกิดจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อย โอกาสหายขาดก็จะสูง
- ระยะเวลาที่เป็น: หากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท การรักษาอาจใช้เวลานานขึ้น
- การมีวินัยในการปรับพฤติกรรม: การปรับท่านั่งทำงาน การออกกำลังกาย และการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญของการหายขาด
ปัจจัยที่ทำให้รักษาออฟฟิศซินโดรมแล้วไม่หาย
สาเหตุหลักที่ทำให้การรักษาออฟฟิศซินโดรมไม่หายขาดคือ
- แก้ที่ปลายเหตุ: การทานยาแก้ปวดหรือนวดเพื่อคลายกล้ามเนื้อชั่วคราวโดยไม่ได้แก้ไขสาเหตุหลัก เช่น ท่าทางที่ไม่ถูกต้อง
- ขาดการปรับพฤติกรรม: แม้จะได้รับการรักษาที่ดีแล้ว แต่หากกลับไปนั่งทำงานในท่าเดิม ๆ อาการก็จะกลับมาเป็นซ้ำได้
- ละเลยการดูแลตัวเอง: ไม่มีการยืดเส้นยืดสายระหว่างวันหรือการออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

วิธีแก้ออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผลจริง
การแก้ไขออฟฟิศซินโดรมที่ได้ผลจริงต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมควบคู่ไปกับการรักษาที่ตรงจุด ดังนี้
ปรับพฤติกรรมแก้ออฟฟิศซินโดรมด้วยตัวเอง
- ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน: เน้นไปที่จัดโต๊ะและเก้าอี้สุขภาพให้เหมาะสมกับสรีระ หรือการจัดโต๊ะทำงานตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) ก็เพื่อป้องกันท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเก้าอี้ไม่รองรับสรีระ โต๊ะทำงานไม่ได้ระดับ โดยจอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ในระดับสายตา เท้าควรวางราบกับพื้น และข้อศอกตั้งฉากกับลำตัว
- ลุกขึ้นยืดเหยียดและพักสายตา: การนั่งทำงานนาน ๆ ควรลุกขึ้นจากเก้าอี้และยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุก ๆ 45-60 นาที เพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ รวมถึงควรพักสายตา เพื่อไม่ให้สายตาถูกใช้งานหนักเกินไป
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกาย เช่น โยคะ พิลาทิส หรือการว่ายน้ำ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย
- การรักษาด้วยกายภาพบำบัด: การเข้ารับการรักษาจากนักกายภาพบำบัดจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ เช่น การคลายปมกล้ามเนื้อ การทำ Shockwave Therapy หรือการใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ทันสมัย

5 แนวทางการรักษาออฟฟิศซินโดรม
แนวทางการรักษาทางการแพทย์: หากอาการรุนแรงมาก แพทย์อาจพิจารณาการใช้ยาแก้ปวด ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือในกรณีร้ายแรงอาจต้องพิจารณาการฉีดสเตียรอยด์เฉพาะจุด
แนวทางการรักษากายภาพบำบัด: นักกายภาพบำบัดจะเน้นการรักษาที่ต้นเหตุโดย Rachata Gaya จะใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น
- Manual Therapy: การนวดบำบัดด้วยมือเพื่อคลายกล้ามเนื้อและพังผืด
- Shockwave Therapy: Shockwave Therapy จะใช้คลื่นกระแทกเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- Ultrasound Therapy: การทำอัลตราซาวด์แบบใช้คลื่นเสียงเพื่อลดการอักเสบและคลายกล้ามเนื้อ
- Personalize Exercise: การออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกาย ท่าบริหาร ท่าสำหรับการยืดกล้ามเนื้อเฉพาะบุคคลเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน
วิธีป้องกันออฟฟิศซินโดรมไม่ให้กลับมาเป็นอีก
การป้องกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการหลีกเลี่ยงออฟฟิศซินโดรม ทำได้ดังนี้
- ปรับท่านั่งและจัดสภาพแวดล้อมให้ถูกต้อง: ทบทวนและปรับท่านั่งทำงานให้ถูกต้องอยู่เสมอ
- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกวัน: ใช้เวลา 5-10 นาทีในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อคอ บ่า และหลังก่อนและหลังเลิกงาน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเพื่อพยุงกระดูกสันหลัง
- พักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียด: ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง
Rachatagaya คลินิกผู้เชี่ยวชาญด้านออฟฟิศซินโดรม
รัชตกายา คลินิกกายภาพบําบัด เข้าใจปัญหาออฟฟิศซินโดรมอย่างลึกซึ้ง เรามุ่งเน้นการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด ไม่ใช่แค่รักษาที่ปลายเหตุ ด้วยการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของกล้ามเนื้อและโครงสร้างทั่วร่างกาย เพื่อวางแผนการรักษาที่เฉพาะเจาะจงและปรับแก้พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ให้คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างไร้ความเจ็บปวดอย่างยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
บทความโดย
กภ.วนิสา หนูพรหม(จูมี่)
นักกายภาพบำบัดและผู้ก่อตั้งรัชตกายา มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงในเรื่องของการแก้ไขปัญหาปวดเรื้อรังโดยตรง คอยให้คำปรึกษาและรักษาให้คุณได้อย่างตรงจุด






